
เสรีภาพทางวิชาการและความยืนหยัดของระบอบเผด็จการ: กรณีของพอล แชมเบอร์ส และวิกฤตสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี 2025
บทคัดย่อ
รายงานฉบับนี้เขียนโดย Nana Tashiro ในความร่วมมือกับ 112WATCH
June 1, 2025
บทความนี้วิเคราะห์เชิงวิพากษ์เกี่ยวกับการจับกุม ดร. พอล แชมเบอร์ส นักวิชาการชาวอเมริกัน เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 ภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย (มาตรา 112) และพิจารณาผลกระทบในวงกว้างต่อเสรีภาพทางวิชาการ การปราบปรามทางกฎหมาย และการถอยหลังของประชาธิปไตย ภายใต้โครงสร้างอำนาจแบบเผด็จการที่ยังคงอยู่ในรัฐบาลพลเรือนของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร บทความนี้แสดงให้เห็นว่ามาตรา 112 ยังคงทำหน้าที่เป็นเครื่องมือทางการเมืองอันทรงพลัง กรณีของแชมเบอร์สเป็นตัวอย่างของการกัดกร่อนสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างเป็นระบบ และสะท้อนถึงการคงอยู่ของอิทธิพลระหว่างกองทัพกับสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้ประเทศจะมีการเปลี่ยนผ่านเชิงรูปแบบผ่านการเลือกตั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566

1. บทนำ
ภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2568 แสดงถึงความย้อนแย้งที่น่ากังวล แม้จะมีการกลับคืนสู่รัฐบาลพลเรือนภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปปี พ.ศ. 2566 แต่อิทธิพลฝังรากของกองทัพและสถาบันพระมหากษัตริย์ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปประชาธิปไตยอย่างแท้จริง การจับกุม ดร. พอล แชมเบอร์ส นักวิชาการชาวอเมริกัน ภายใต้มาตรา 112 ถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเสรีภาพทางวิชาการ การดำเนินคดีของเขาสะท้อนถึงการใช้มาตรา 112 เป็นเครื่องมือของรัฐในการปราบปราม และเน้นให้เห็นถึงโครงสร้างที่ขัดขวางการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยภายใต้ระบอบปัจจุบัน
โดยใช้กรณีของแชมเบอร์สเป็นจุดวิเคราะห์ บทความนี้จะตรวจสอบภาวะชะงักงันทางการเมืองของไทยในสามมิติที่เชื่อมโยงกัน ได้แก่ การใช้มาตรา 112 อย่างกดขี่ ความชอบธรรมอันเปราะบางของรัฐบาลพลเรือน และท่าทีทางภูมิรัฐศาสตร์ของไทยท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ทวีความรุนแรง
2. กรณีแชมเบอร์ส: การทำให้วิชาการกลายเป็นอาชญากรรม
2.1 การวิเคราะห์ทางกฎหมาย
การจับกุมและการคุกคามทางตุลาการต่อ ดร. พอล แชมเบอร์ส เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2568 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่แสดงถึงการปราบปรามเสรีภาพทางวิชาการในประเทศไทย แชมเบอร์ส นักรัฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นที่รู้จักจากงานวิจัยด้านความสัมพันธ์ระหว่างพลเรือนกับทหาร ถูกตั้งข้อหาภายใต้มาตรา 112 และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 114 โดยข้อกล่าวหาเกิดจากการเชิญเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์เรื่อง “การสับเปลี่ยนกำลังทหารและตำรวจในปี 2024 ของไทย: หมายความว่าอย่างไร?” ซึ่งจัดโดยสถาบัน ISEAS–Yusof Ishak แห่งสิงคโปร์ แชมเบอร์สปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าเขา “มิได้เขียนหรือเผยแพร่ข้อความในเว็บไซต์นั้น” (Ratcliffe, 2025)
ตามรายงานของ Thai Lawyers for Human Rights (2025) คดีนี้ก่อให้เกิดข้อกังวลหลักหลายประการ ได้แก่:
- การใช้กฎหมายที่คลุมเครือและลงโทษรุนแรงเพื่อจำกัดการศึกษาวิจัยทางวิชาการ;
- การมีส่วนร่วมโดยตรงของทหารในการยื่นคำร้องต่อคดีนักวิชาการ;
- ความไม่ชอบมาพากลในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงการควบคุมตัวก่อนการพิจารณาคดีและมาตรการตอบโต้ทางตรวจคนเข้าเมือง
วีซ่าของแชมเบอร์สถูกเพิกถอนภายใต้มาตรา 12(8) ของพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อ “ศีลธรรมอันดี” ของประชาชน ซึ่งถือเป็นการลงโทษนอกกระบวนการยุติธรรม (Thai Lawyers for Human Rights, 2025) การดำเนินการเหล่านี้ละเมิดหลักการของกระบวนการยุติธรรมและหลักแห่งการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของแชมเบอร์สซึ่งพำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานานและไม่มีความเสี่ยงในการหลบหนี (Thai Lawyers for Human Rights, 2025) การที่ศาลจังหวัดพิษณุโลกปฏิเสธการประกันตัวยังบ่อนทำลายความเป็นกลางของตุลาการ และขัดต่อรัฐธรรมนูญไทย รวมถึงหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะมาตรา 19 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (1966) และข้อคิดเห็นทั่วไปฉบับที่ 35 (2014) ซึ่งเน้นว่าการควบคุมตัวก่อนการพิจารณาคดีควรเป็นข้อยกเว้น
กรณีนี้แสดงให้เห็นว่ามาตรา 112 ได้แปรเปลี่ยนจากกฎหมายที่มีเจตนาคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อปราบปรามผู้เห็นต่าง เนื่องจากภาษากฎหมายที่คลุมเครือ ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตีความการอภิปรายทางวิชาการว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ (112WATCH, 2024) ในกรณีของแชมเบอร์ส การวิเคราะห์เชิงวิชาการเกี่ยวกับการสับเปลี่ยนข้าราชการ กลับถูกบิดเบือนว่าเป็นการยุยงปลุกปั่น การตีความกฎหมายอย่างยืดหยุ่นเช่นนี้เป็นลักษณะเฉพาะของระบอบเผด็จการ
ที่น่ากังวลไม่แพ้กันคือรูปแบบของข้อยกเว้นทางกฎหมายในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งมักดำเนินคดีโดยไม่มีหลักฐานเพียงพอ แต่กลับปฏิเสธการให้ประกันตัว (Thai Lawyers for Human Rights, 2024) สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ว่าศาลยุติธรรมรับใช้ผลประโยชน์ของกองทัพและกลุ่มนิยมเจ้า แทนที่จะพิทักษ์ความยุติธรรม ระบบกฎหมายกลับกลายเป็นกลไกในการปิดปากผู้เห็นต่างผ่านการบังคับใช้กฎหมายแบบเลือกปฏิบัติ
2.2 ความไม่ชอบมาพากลในกระบวนการ
การดำเนินการทางกฎหมายและการบริหารในคดีของแชมเบอร์สสะท้อนถึงการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมเพื่อขัดขวางความคิดเห็นต่างและลงโทษการศึกษาวิจัยเชิงวิพากษ์
- การเพิกถอนวีซ่า: ก่อนที่จะมีการพิจารณาคดีหรือคำพิพากษาใด ๆ วีซ่าของแชมเบอร์สก็ถูกเพิกถอนภายใต้มาตราว่าด้วย “ศีลธรรม” ที่นิยามอย่างคลุมเครือในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่อาศัยอำนาจตามมาตรา 12(8) ร่วมกับมาตรา 36 ใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองในการลงโทษโดยไม่มีการควบคุมของศาล (Thai Lawyers for Human Rights, 2025)
- การปฏิเสธการประกันตัว: แม้ว่าแชมเบอร์สจะมีความผูกพันกับประเทศไทยมายาวนานและมีสถานภาพทางวิชาชีพที่มั่นคง ศาลกลับปฏิเสธการให้ประกันตัว ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แนวปฏิบัตินี้ขัดต่อมาตรฐานกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น มาตรา 9 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (1966) ซึ่งรับรองสิทธิในการไม่ถูกควบคุมตัวโดยพลการ
- การแทรกแซงของกองทัพ: การเริ่มต้นกระบวนการทางกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ทหารยิ่งทำให้เส้นแบ่งระหว่างอำนาจพลเรือนและอำนาจทหารเลือนราง ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความเป็นกลางของกระบวนการยุติธรรม และจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการดำเนินคดี
ความไม่ชอบมาพากลเหล่านี้เผยให้เห็นว่ากลไกทางกฎหมายและการบริหารของไทยถูกใช้เป็นเครื่องมือในการบังคับให้ยึดมั่นในอุดมการณ์ของรัฐ ซึ่งทำให้หลักนิติธรรมและความเชื่อมั่นของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมเสื่อมถอยลงอย่างรุนแรง

3. หน้ากากประชาธิปไตย แก่นแท้อำนาจนิยม
การเลือกตั้งทั่วไปของประเทศไทยในปี 2566 ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณของการฟื้นฟูประชาธิปไตย พรรคก้าวไกลซึ่งหาเสียงด้วยนโยบายก้าวหน้า รวมถึงการปฏิรูปมาตรา 112 ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร (Curtis, 2024) อย่างไรก็ตาม วุฒิสภาที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารได้ขัดขวางไม่ให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (Curtis, 2024) ซึ่งเป็นการบ่อนทำลายเจตจำนงประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ในที่สุด พรรคเพื่อไทยซึ่งเคยเป็นฝ่ายตรงข้ามกับอำนาจของทหาร ได้จัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคอนุรักษนิยมและกลุ่มที่ใกล้ชิดกับกองทัพ ทำให้เศรษฐา ทวีสิน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และถือเป็นการถอยห่างจากแนวทางปฏิรูปประชาธิปไตย (Ewe, 2023)
ในปี 2567 พรรคเพื่อไทยได้ถ่ายโอนอำนาจการนำไปยังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ผู้ที่เดินทางกลับประเทศไทยภายใต้กระบวนการยุติธรรมที่ผ่อนปรนอย่างผิดสังเกตในปี 2566 (Head et al., 2024) การเปลี่ยนผู้นำแบบราชวงศ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเต็มใจของชนชั้นนำทางการเมืองในการรักษาโครงสร้างอำนาจผ่านการประนีประนอมกับพันธมิตรระหว่างกองทัพและสถาบันพระมหากษัตริย์ มากกว่าการเผชิญหน้ากับระบอบอำนาจนิยม แม้จะได้รับความชอบธรรมจากการเลือกตั้ง แต่รัฐบาลของแพทองธารยังคงรักษาและในบางกรณีขยายกลไกการปราบปรามที่สืบทอดมาจากคณะรัฐประหาร
ในบริบทนี้ คดีของ Chambers ไม่ใช่ข้อยกเว้น แต่เป็นผลผลิตของความต่อเนื่องเชิงโครงสร้าง แสดงให้เห็นถึงการใช้อุปกรณ์ทางกฎหมายแบบอำนาจนิยมโดยรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ความจริงนี้ทำให้การตอบสนองจากนานาชาติเกิดความซับซ้อน และพร่ามัวเส้นแบ่งระหว่างรูปแบบประชาธิปไตยกับเนื้อหาของอำนาจนิยม การใช้งานกฎหมายเหล่านี้อย่างต่อเนื่องโดยผู้นำพลเรือนมิได้สะท้อนเพียงความเฉื่อย แต่ยังเป็นการสมรู้ร่วมคิดเชิงยุทธศาสตร์—โดยใช้ความชอบธรรมจากการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือในการคงไว้ซึ่งกลไกการปราบปราม
4. ความยืดหยุ่นของอำนาจนิยม การปราบปรามทางวิชาการ และภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลง
การจับกุมดร. พอล แชมเบอร์ส ในเดือนเมษายน 2568 ถือเป็นการยกระดับการใช้อำนาจรัฐอย่างอำนาจนิยม โดยเฉพาะในด้านการตอบสนองต่อการวิพากษ์วิจารณ์จากภาควิชาการ คดีนี้ถือเป็นการบังคับใช้มาตรา 112 ในระดับข้ามพรมแดน ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับเสรีภาพทางวิชาการและการปราบปรามเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
การดำเนินคดีของแชมเบอร์สไม่ได้เกิดขึ้นโดยลำพัง เพียงสองเดือนก่อนหน้านั้น ทางการไทยได้เนรเทศชาวอุยกูร์จำนวน 40 คนกลับไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและหลักการไม่ผลักดันกลับ (non-refoulement) (Human Rights Watch, 2025) การกระทำดังกล่าวได้รับการประณามอย่างทันทีจากองค์การสหประชาชาติ องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และรัฐบาลตะวันตก (Human Rights Watch, 2025) จนนำไปสู่การที่สหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการคว่ำบาตรวีซ่าต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทย (Strangio, 2025) การเนรเทศครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการเอาใจปักกิ่งโดยตรง และเน้นย้ำให้เห็นถึงการที่ไทยให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์มากกว่าพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน
ในขณะที่กรณีชาวอุยกูร์ถูกตีความในบริบทของภูมิรัฐศาสตร์แบบมหาอำนาจ คดีของแชมเบอร์สกลับสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบอำนาจนิยมที่ลึกซึ้งขึ้น ไม่เหมือนกับการเนรเทศที่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของจีน การดำเนินคดีต่อนักวิชาการสหรัฐฯ ได้รับการตอบโต้จากประเทศประชาธิปไตยและองค์กรสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง คดีนี้แสดงให้เห็นถึงความเต็มใจที่เพิ่มขึ้นของรัฐไทยในการทำให้การวิเคราะห์ทางวิชาการเป็นความผิดทางกฎหมาย แม้จะเกิดขึ้นในต่างประเทศ และการขยายขอบเขตของการใช้มาตรา 112 เพื่อปราบปรามทั้งเสียงวิจารณ์ในประเทศและการมีส่วนร่วมของนักวิชาการจากต่างชาติ
เมื่อพิจารณาร่วมกัน เหตุการณ์เหล่านี้เผยให้เห็นรูปแบบที่น่ากังวล: ความไม่อดทนต่อการวิจารณ์เพิ่มขึ้นควบคู่กับการแนบแน่นกับระบอบอำนาจนิยม ผลที่ตามมาคือเสรีภาพทางวิชาการในประเทศไทยตกอยู่ในอันตราย นักวิชาการและภาคประชาสังคมรู้สึกว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัยต่อการวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ นักวิจัยท้องถิ่นต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ขณะที่นักวิชาการต่างชาติก็หลีกเลี่ยงการศึกษาเรื่องการเมืองไทย ผลกระทบระยะยาวคือการแยกตัวทางปัญญาและการลดบทบาทของไทยในเครือข่ายวิจัยระดับโลก
นโยบายต่างประเทศของไทยก็เปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกัน จากที่เคยรักษาสมดุลระหว่างสหรัฐฯ และจีนในยุคหลังสงครามเย็น พัฒนาการล่าสุดชี้ให้เห็นถึงการเอนเอียงไปทางปักกิ่งอย่างชัดเจน (Chivvis et al., 2023) การปรับแนวทางนี้ไม่เพียงแต่จำกัดอยู่ที่ความร่วมมือทางการทูตและเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการนำเครื่องมือการปกครองแบบจีนมาใช้ เช่น การเฝ้าระวังดิจิทัล การควบคุมข้อมูล และการจำกัดเสรีภาพพลเมือง (Feldstein, 2021) เมื่อความสัมพันธ์กับจีนแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น การยึดมั่นในมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากลของไทยก็ยิ่งสั่นคลอน
ดังนั้น คดีของแชมเบอร์สจึงสะท้อนการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์นี้อย่างชัดเจน รัฐบาลชุดปัจจุบันมีความมั่นใจมากขึ้นในการเผชิญหน้ากับพันธมิตรประชาธิปไตย โดยได้รับการสนับสนุนทางการเมืองจากปักกิ่ง การแนวร่วมนี้ช่วยลดแรงกดดันจากภายนอกต่อการปฏิรูป และส่งเสริมให้รัฐไทยใช้แนวทางการปราบปรามภายในมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สำคัญ การถอยห่างจากการทูตบนพื้นฐานสิทธิมนุษยชน และภาพลักษณ์ทางประชาธิปไตยที่เสื่อมถอย กำลังทำให้ไทย疏ห่างจากพันธมิตรดั้งเดิม (Chivvis et al., 2023) การละเมิดเสรีภาพทางวิชาการยังบ่อนทำลายอำนาจเชิงนุ่มนวล ความน่าเชื่อถือในเวทีพหุภาคี และขีดความสามารถในการดึงดูดนักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน และหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา ประเทศไทยซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นผู้นำประชาธิปไตยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังถูกมองว่าเป็นกรณีศึกษาของการล่าถอยทางประชาธิปไตย
ในบริบทนี้ มาตรา 112 ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือควบคุมภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวชี้วัดแนวโน้มทางภูมิรัฐศาสตร์ การใช้งานอย่างต่อเนื่องสะท้อนถึงการคำนวณเชิงกลยุทธ์ว่า การปราบปรามภายในสามารถอยู่ร่วมกับการผนึกพันธมิตรกับอำนาจนิยมในระดับนานาชาติได้ อย่างไรก็ตาม คดีของแชมเบอร์สและชาวอุยกูร์แสดงให้เห็นว่า แนวทางเช่นนี้อาจสร้างต้นทุนอย่างมหาศาลในด้านความชอบธรรม การทูต และผลประโยชน์ระยะยาวของชาติ

5. อัปเดต
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ดร. แชมเบอร์สได้รับการยกฟ้องจากข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพโดยสำนักงานอัยการสูงสุด เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยืนยันว่าคดีได้ถูกยกเลิก เนื่องจากไม่สามารถเชื่อมโยงดร. แชมเบอร์สกับเนื้อหาที่เป็นข้อขัดแย้งได้โดยตรง ปัจจุบัน เขาได้รับคืนหนังสือเดินทาง และได้เดินทางออกจากประเทศไทยแล้ว เป็นการปิดฉากเหตุการณ์อื้อฉาวที่สะท้อนถึงพื้นที่อันเปราะบางระหว่างเสรีภาพทางวิชาการกับกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย
6. บทสรุป: การปกป้องเสรีภาพทางวิชาการ และการรื้อถอนกลไกการปราบปรามทางกฎหมาย
การจับกุมดร. พอล แชมเบอร์สในเดือนเมษายน 2568 ไม่ใช่เพียงกรณีทางกฎหมายที่ผิดปกติเท่านั้น—แต่มันคือเสียงเตือนภัย มันเป็นการยกระดับอันตรายจากการใช้มาตรา 112 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องของรัฐไทยในการปิดปากผู้เห็นต่างทางปัญญา ทำลายเสรีภาพพลเมือง และคงไว้ซึ่งระบอบอำนาจนิยม
เหตุการณ์นี้ควรกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวอย่างเร่งด่วนจากนักสิทธิมนุษยชน สถาบันการศึกษา และนักการทูตระหว่างประเทศ การปกป้องเสรีภาพทางวิชาการไม่ใช่เพียงการคุ้มครองนักวิชาการ แต่คือการปกป้องพื้นที่สาธารณะเพื่อความจริง ความรับผิดชอบ และการสนทนาในสังคมประชาธิปไตย หากรัฐสามารถทำให้การวิเคราะห์ที่สงบและอิงหลักฐานเป็นความผิดได้ ก็เป็นการคุกคามต่อแก่นแท้ของความรู้และประชาธิปไตย
การดำรงอยู่ของมาตรา 112 ในรูปแบบปัจจุบันคือภัยคุกคามเชิงโครงสร้างต่อประชาธิปไตยไทย ภาษาที่คลุมเครือ การตีความที่กว้าง และบทลงโทษที่รุนแรง ล้วนทำหน้าที่เป็นเครื่องมือทางกฎหมายเพื่อการปราบปราม การยกเลิกหรือปฏิรูปอย่างถอนรากถอนโคนของมาตรานี้ ต้องเป็นข้อเรียกร้องหลักของทุกฝ่ายที่มุ่งมั่นต่อการฟื้นฟูประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
ที่สำคัญ คดีของดร. แชมเบอร์สไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดดเดี่ยว แต่ต้องถูกเข้าใจร่วมกับกรณีของนายอานนท์ นำภา นักกฎหมายสิทธิมนุษยชนผู้ถูกตัดสินจำคุกหลายปีจากการปราศรัยอย่างสันติเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ (Front Line Defenders, 2025) และการเสียชีวิตของบัง เนติพร นักกิจกรรมรุ่นเยาว์ที่เสียชีวิตในเรือนจำระหว่างการอดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องการยุติการคุมขังก่อนการพิจารณาคดีของนักโทษการเมือง (Drury, 2024) กรณีเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบร้ายแรงและต่อเนื่องของมาตรา 112 ต่อบุคคล ชุมชน และโครงสร้างประชาธิปไตยของสังคมไทย
ในฐานะองค์กรที่มุ่งมั่นต่อการปกป้องเสรีภาพพลเมือง 112WATCH ขอเรียกร้องต่อประชาคมระหว่างประเทศให้ตระหนักว่าคดีของแชมเบอร์สสะท้อนถึงแนวโน้มอำนาจนิยมในวงกว้างที่ต้องการการตอบสนองอย่างประสานกันและทันที มาตรการคว่ำบาตร ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจากวงการวิชาการ และแรงกดดันทางการทูตจำเป็นต้องถูกนำมาใช้อย่างเร่งด่วน
ขณะนี้คือช่วงเวลาที่ต้องการความชัดเจนและความกล้าหาญ ทางเลือกคือระหว่างสังคมที่ลงโทษความจริงและปกครองด้วยความกลัว กับสังคมที่คุ้มครองความรู้ การโต้วาที และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การจับกุมพอล แชมเบอร์ส การตัดสินจำคุกอานนท์ นำภา และการเสียชีวิตของบัง เนติพร ไม่ใช่เพียงโศกนาฏกรรมส่วนบุคคล—แต่มันคือบททดสอบสำหรับทุกคนที่เชื่อในสิทธิในการคิด พูด และแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี เราต้องเผชิญกับความท้าทายนี้โดยไม่รีรอ
รายงานฉบับนี้เขียนโดย Nana Tashiro ในความร่วมมือกับ 112WATCH
References
Chivvis, C, S., Marciel, S., & Geaghan-Breiner, B. (2023). Thailand in the Emerging World Order. Carnegie Endowment for International Peace. https://carnegieendowment.org/research/2023/10/thailand-in-the-emerging-world-order?lang=en
Curtis, J. (2024). Thailand: Political developments 2023-24 and the banning of the Move Forward Party. House of Commons Library. https://commonslibrary.parliament.uk/research-briefings/cbp-10141/
Drury, F. (2024, May 15). Jailed Thai activist, 28, dies after hunger strike. BBC News. https://www.bbc.com/news/articles/c0v005j1j91o
Ewe, K. (2023, August 23). Thailand’s Populist Pheu Thai Party Finally Won the Prime Minister Vote—But at What Cost? Time. https://time.com/6307115/thailand-prime-minister-srettha-thavisin-pheu-thai/
Feldstein, S. (2021). Thailand’s Strategy of Control. In Steven, F (Eds.), The Rise of Digital Repression: How Technology is Reshaping Power, Politics, and Resistance (pp. 66 -133). https://doi.org/10.1093/oso/9780190057497.003.0004
Front Line Defenders. (2025). Repeated Criminalisation of Thai Human Rights Lawyer Arnon Nampa. https://www.frontlinedefenders.org/en/case/repeated-criminalisation-thai-human-rights-lawyer-arnon-nampa
General comment No. 35 on Article 9, Liberty and security of person, CCPR, CCPR/C/GC/35 (31 October 2014).
Head, J., Doksone, T., & Ng, K. (2024). Ex-PM's daughter picked as youngest ever Thai leader. BBC News. https://www.bbc.com/news/articles/cd6yj26vz8yo
Human Rights Watch. (2025). Thailand: 40 Uyghurs Forcibly Sent to China. https://www.hrw.org/news/2025/02/27/thailand-40-uyghurs-forcibly-sent-china
Ratcliffe, R. (2025, April 8). American academic Paul Chambers charged with insulting monarchy in Thailand. The Guardian. https://www.theguardian.com/world/2025/apr/08/american-academic-paul-chambers-thailand-charged-insulting-monarchy
Res 2200A, UNSC, UN Doc S/2200A/XXI (16 December 1966).
Strangio, S. (2025, March 17). US Imposes Visa Restrictions on Thai Officials Over Uyghur Deportation. The Diplomat. https://thediplomat.com/2025/03/us-imposes-visa-restrictions-on-thai-officials-over-uyghur-deportation/
Thai Lawyers for Human Rights. (2024). ประมวลสถานการณ์ยื่นประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมืองครึ่งปี 2567 (ม.ค. – ก.ค.) พบคำร้องขอประกันสูง 109 ฉบับ มีเพียงผู้ต้องขัง 6 ราย ได้ประกัน [Summary of the political detainee bail situation for the first half of 2024 (January – July): A total of 109 bail requests were submitted, but only 6 detainees were granted bail.] https://tlhr2014.com/archives/68919
Thai Lawyers for Human Rights. (2025). Statement: Calling on Thailand to Guarantee Basic Rights in the Criminal Justice System in Section 112 Case Regarding the Arrest of Dr. Paul Chambers. https://tlhr2014.com/en/archives/74771